วิธีการดูแล บำรุงรักษาวิทยุสื่อสารเบื้องต้น

โดยปกติแล้ววิทยุสื่อสารสามารถใช้งานได้นานหลายปี บางเครื่องอาจจะถึง 10 ปีด้วยซ้ำ ถ้าหากผู้ใช้รู้จักวิธีดูแลรักษาที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยมีวิธีดูแลรักษาวิทยุสื่อสารเบื้องต้นมาให้อ่านกัน

• ก่อนที่จะเริ่มใช้วิทยุสื่อสาร ผู้ใช้จะต้องศึกษาคู่มือการใช้ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่าปุ่มไหนใช้สำหรับทำอะไร และตัวเครื่องวิทยุสื่อสารนั้นมี Function อะไรบ้าง
• ไม่ควรวางวิทยุสื่อสารในพื้นที่ที่มีความร้อนสูงหรือใกล้แหล่งที่มีความร้อน จำเป็นต้องดูในคำเตือนก่อนว่าเครื่องสามารถทนความร้อนและความเย็นได้ถึงกี่องศา ซึ่งโดยส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณ -20° ถึง +60°
• การกด PTT แต่ละครั้งนั้น ไม่ควรกดแช่เกิน 20 วินาที เพราะจะทำให้ภาคส่งนั้นร้อนเกินไป และส่งผลให้วิทยุสื่อสารนั้นเสื่อมเร็วเกินอายุการใช้งานปกติ ควรจะมีการเว้นวรรคในการกดส่งเป็นจังหวะๆ ซึ่งวิทยุสื่อสารรุ่นใหม่จะมีระบบ TOT หรือ Time out timer เพื่อป้องกันคีย์ค้างเช่นกัน
• หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงไม่ว่าจะเป็นวิทยุสื่อสารรุ่นไหนก็ตาม เพราะจะทำให้อะไหล่ภายในเครื่องได้รับความเสียหาย ควรจะมีซองหนังหรือซองซิลิโคนหุ้มที่ช่วยป้องกันวิทยุสื่อสารกระแทก
• หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหรือละอองน้ำ เพราะจะให้เครื่องมีความชื้นและสิ่งสกปรกจะเข้าภายในเครื่อง ถ้าหากจำเป็นต้องใช้วิทยุสื่อสารในสภาพพื้นที่นี้จริงๆ ควรเลือกวิทยุสื่อสารที่ได้รับมาตรฐาน IP67 ซึ่งสามารถป้องกันฝุ่นและละอองน้ำได้
• สำหรับอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร เช่น เสาอากาศและแบตเตอรี่ ก็มีผลต่ออายุการใช้งานของวิทยุสื่อสารเช่นกัน
  • เสาอากาศแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือเสาอากาศยาง และเสาอากาศแบบชัก ในส่วนของเสาอากาศยางนั้น ไม่ควรหักหรืองอเสาเล่น ถึงแม้ว่าเสาจะมีความยืดหยุ่นมากแค่ไหนก็ตาม ส่วนเสาอากาศแบบชัก ก่อนจะใช้วิทยุสื่อสาร (ก่อนกด PTT) จะต้องชักเสาให้สุดก่อนเท่านั้น จะจะเริ่มใช้งานได้ ไม่ควรชักครึ่งๆกลางๆ เพราะจะทำให้สัญญาณย้อนเข้าหาเครื่อง และทำให้ระบบวิทยุสื่อสารเสียได้
  • ในส่วนของแบตเตอรี่ ไม่ควรชาร์จและใช้งานวิทยุสื่อสารไปด้วยพร้อมๆกัน เพราะการกด PTT จะทำให้เครื่องดึงกระแสพลังงานมาใช้มากกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้วิทยุสื่อสารเสียได้ แต่ทั้งนี้ สามารถตั้ง Standby เพื่อฟังอย่างเดียวได้ขณะชาร์จได้